กัณฑ์ที่ ๓๕๓      ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐

 

 อุปสมบท

 

 

 

 

วันนี้มีการประกอบพิธีอุปสมบทแก่ผู้มีจิตศรัทธา ที่บวชเพื่อบูชาพระคุณของบิดามารดา เป็นการกระทำที่ดี ที่จะนำมาซึ่งความสุขความเจริญ ทั้งกับผู้บวชเองและผู้ใกล้ชิด เช่นบิดามารดาเป็นต้น ดังมีคำพูดที่ว่า พ่อแม่อาศัยเกาะชายผ้าเหลืองของลูกไปสวรรค์ เพราะการบวชเป็นการกระทำที่สูงส่ง ที่ไม่ใช่ธรรมดา ผู้บวชจะต้องเสียสละ ต้องมีความอดทนอดกลั้น ต้องอยู่ในกรอบของความดีงาม การบวชจึงไม่ใช่เป็นของง่าย จึงมีอานิสงส์มากมีผลมาก มีโอกาสไปถึงพระนิพพาน บิดามารดาญาติสนิทมิตรสหาย ก็จะได้อาศัยเกาะชายผ้าเหลืองตามไปด้วย แต่ไม่ได้เหาะเหินเดินอากาศไป นั่งเครื่องบินไป แต่ไปด้วยการกระทำความดี ที่เป็นเหตุเป็นปัจจัยที่จะพาให้ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้ไปสู่ที่ดี ไปสู่สวรรค์ชั้นต่างๆ พรหมโลกชั้นต่างๆ และมรรคผลนิพพาน ไปด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ได้นั่งเครื่องบินไป เพราะไม่สามารถพาไปสวรรค์ พาไปมรรคผลนิพพานได้ ต้องอยู่ที่การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทางกายทางวาจาทางใจเท่านั้น เมื่อลูกได้บวชแล้ว เป็นธรรมดาที่พ่อแม่และญาติสนิทมิตรสหาย ที่มีความผูกพันมีความรักคิดถึงกัน ก็ต้องมาดูแลมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ ก็จะได้มีโอกาสทำดี ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามไปด้วย ถ้าไม่มีลูกไม่มีเพื่อนไม่มีญาติมาบวช ก็จะไม่ค่อยได้เข้าวัดกัน เพราะมีธุระต่างๆที่จะต้องทำอยู่มากมาย เลยผัดการมาวัดไปก่อน ขอทำสิ่งที่จำเป็นเฉพาะหน้าก่อน จึงไม่ได้เข้าวัดเท่าที่ควร ไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ได้ไปสวรรค์ชั้นต่างๆ พรหมโลกชั้นต่างๆ ไปสู่มรรคผลนิพพาน การบวชจึงเป็นเหตุที่จะทำให้คนหลายคน ได้มีโอกาสไปสู่ที่ชอบไปสู่สุคติ เมื่อถึงเวลาที่จะต้องจากโลกนี้ไป เพราะความเสียสละของผู้บวชนั่นเอง

 

คนที่จะบวชจึงต้องเสียสละมาก ต้องอดทนอดกลั้นมาก ต้องตั้งอยู่ในศีลในธรรมเสมอ เป็นคุณธรรมที่จะทำให้อยู่ในกรอบของความดีงามได้ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ ในเบื้องต้นจึงต้องเสียสละก่อน สละจากเพศของฆราวาสสู่เพศของบรรพชิต เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เพราะโดยปกติแล้วจะยึดติดกับชีวิตของฆราวาสกัน ยึดติดกับความสุขต่างๆที่ฆราวาสสามารถจะทำได้ เช่นไปเที่ยว ไปดื่ม ไปดูหนังฟังเพลง ไปหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย เมื่อต้องสละจึงเป็นสิ่งที่ยากมาก เป็นเหมือนกับการเลิกเสพสุรายาเมา เลิกยาเสพติด คนที่ติดยาเสพติดติดสุราติดบุหรี่ จะรู้ว่าเลิกได้ยากมาก แต่ถ้าได้พิจารณาจนเห็นว่า ไม่มีคุณไม่มีประโยชน์อะไร เสพไปแล้วมีแต่จะเสียหาย มีแต่จะขาดทุน ไหนจะเสียเวลา ไหนจะเสียเงินเสียทอง ไหนจะเสียสุขภาพร่างกาย ถ้าคิดสักหน่อยก็จะเห็นว่า ตนเป็นคนโง่ ทำร้ายตัวเอง ก็จะละได้สละได้ ถ้าเห็นว่าเพศของฆราวาสมีแต่ความวุ่นวาย มีแต่ความทุกข์ มีแต่ปัญหาต่างๆ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ คิดว่าได้มาแล้วจะมีความสุข พอได้มาไม่นานก็เปลี่ยนไป ต้องแก้ไขอยู่เรื่อยๆ ถ้าเป็นวัตถุข้าวของต่างๆ ได้มาไม่นานก็ชำรุดทรุดโทรม ต้องซ่อมบำรุงอยู่เรื่อยๆ ความสุขทางโลกจึงปนไปด้วยความทุกข์ความวุ่นวายใจต่างๆ ถ้าได้พิจารณาก็จะสนใจความสุขทางธรรม ที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยวัตถุข้าวของต่างๆ บุคคลนั้นหรือบุคคลนี้ เพราะความสุขทางธรรมอาศัยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อาศัยการเสียสละ ความอดทนอดกลั้น อาศัยระเบียบวินัย

 

ความสุขทางธรรมเกิดจากความสงบของจิตใจ เป็นความสุขที่ดีกว่าความสุขต่างๆทางโลก ทางตาหูทางจมูกทางลิ้นทางกาย ที่มีความแตกต่างกันเหมือนฟ้ากับดินเลย เหมือนเพชรกับก้อนอิฐก้อนหิน ถ้ายังไม่ได้สัมผัสจะไม่รู้ ผู้ที่ได้สัมผัสแล้วเท่านั้นที่รู้ จะแสวงหาความสุขแบบนี้ให้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นฆราวาส ก็จะยินดีออกบวช พร้อมที่จะสละความสุขต่างๆของทางโลกไป ได้เห็นแล้วว่าต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน เหมือนเพชรกับก้อนหิน จะไปหลงอะไรกับก้อนหิน เมื่อได้เพชรแล้ว รู้ว่าเพชรอยู่ที่ไหน ก็ต้องมุ่งไปหาเพชร กอบโกยให้มากที่สุด เพราะความสุขที่เกิดจากความสงบของใจเป็นเหมือนเพชร พอได้สัมผัสแล้วจะไม่ยินดีกับความสุขทางโลกอีกต่อไป จะไม่ไปเที่ยว ไปดื่ม ไปสูบ ไปดูหนังฟังเพลง ไปทำอะไรต่างๆอย่างที่เคยทำมา เพราะทำไปแล้วก็เหมือนเดิม ไม่ได้วิเศษวิโสเลย ไม่อิ่มพอ ได้มาเท่าไหร่ก็ต้องแสวงหาใหม่อีก วันนี้ไปเที่ยวมีความสนุกกัน พอกลับมาถึงบ้าน ความสนุกก็หายไปหมด พอพรุ่งนี้หรืออาทิตย์หน้า ก็อยากจะไปเที่ยวใหม่ ทำอย่างนี้มานานแล้ว ก็ยังไม่อิ่มพอ ส่วนความสุขทางธรรมนี้ เมื่อได้พบแล้วจะเริ่มมีความอิ่มมีความพอ จะไม่หิวอยากกับความสุขทางโลกเลย อยากจะมีความสุขทางธรรม อยากมีความสงบมากยิ่งขึ้น เพราะครั้งแรกที่ได้สัมผัส จะเป็นเพียงชั่วขณะเดียว ขณะที่จิตรวมลงครั้งแรกจะรวมไม่นาน เพียงชั่ววินาทีสองวินาทีก็ถอนออกมาแล้ว แต่ก็ทำให้เห็นคุณค่าอันประเสริฐวิเศษของความสุขทางธรรมแล้ว ทำให้อยากมีมากยิ่งขึ้น ให้มีอยู่ตลอดเวลาเลย ไม่เพียงหนึ่งวินาทีสองวินาที อยากจะให้มีตลอด ๒๔ ชั่วโมง

 

การที่จะมีความสุขอย่างนั้นได้ ก็ต้องสละความสุขทางโลก ไม่มีวิธีใดที่จะดีเท่ากับการออกบวช เพราะจะได้มีเวลาเต็มที่ในการสร้างความสุขทางจิตใจ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เหมือนอย่างฆราวาส เพราะมีผู้อื่นคอยดูแลเลี้ยงดู อย่างวันนี้ญาติโยมก็นำกับข้าวกับปลาอาหารมาถวายพระล้นศาลา กินไปอีก ๑๐ วันก็กินไม่หมด พระพุทธเจ้าทรงไม่ให้พระมีอาชีพทำมาหากิน หน้าที่ของพระหรืออาชีพของพระ อยู่ที่การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วก็นำเอาพระธรรมคำสอนมาปฏิบัติกับกายวาจาใจของตน ชำระใจให้สะอาด ไม่ให้โลภไม่ให้โกรธไม่ให้หลง เพราะความโลภความโกรธความหลง จะทำให้คิดไม่ดีพูดไม่ดีทำไม่ดี ทำให้ทุกข์วุ่นวายใจ ถ้าไม่มีความโลภความโกรธความหลงแล้ว ใจจะมีแต่ความสงบ มีแต่ความอิ่มความพอ นั่งอยู่เฉยๆก็จะไม่รู้สึกรำคาญใจ ไม่ต้องหาอะไรมาดู หาอะไรมาฟัง หาอะไรมาดื่มมารับประทาน เพราะไม่มีความโลภความโกรธความหลงความอยากต่างๆ เมื่อไม่มีแล้วก็แสนจะสุขแสนจะสบาย ไม่ต้องมีอะไรภายนอก ไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายหาเงินหาทอง หาข้าวหาของ หาคนนั้นหาคนนี้ ไปเที่ยวที่นั่นไปเที่ยวที่นี่ ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีความสุขอยู่ในตัวแล้ว แต่พวกเรายังไม่ได้ศึกษาวิธีชำระกายวาจาใจให้สะอาด กำจัดความโลภความโกรธความหลงให้หมดไป จึงอยู่เฉยๆกันไม่ได้ ให้นั่งอยู่เฉยๆคนเดียวสักระยะหนึ่งก็จะเบื่อหน่าย ต้องทำนั่นทำนี่ ต้องลุกขึ้นไปดูนั่นดูนี่ เพราะใจไม่เป็นสุข อยู่ไม่เป็นสุข เป็นกรรมของพวกเราที่สร้างความโลภความโกรธความหลงไว้ จึงทำให้คันเหมือนสุนัขขี้เรื้อน เกาเท่าไหร่ก็ไม่หายคัน เพราะเกาไม่ถูกที่ คันที่หลังแต่ไปเกาที่ศีรษะ ก็จะไม่หายคัน

 

ฉันใดการแก้ความทุกข์ความเบื่อหน่าย ด้วยการไปหาความสุขจากสิ่งต่างๆภายนอก ไปหารูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ไปดูหนังไปเที่ยวไปฟังเพลงไปดื่มไปรับประทาน ไม่ใช่วิธีแก้ความคันของใจ เพราะคันที่ใจ ที่ความโลภความโกรธความหลง พระพุทธเจ้าได้ทรงแก้มาแล้ว ทรงรู้แล้วว่าสิ่งที่ทำให้ใจคันอยู่ไม่เป็นสุข ก็คือความโลภความโกรธความหลงนี้เอง ได้ทรงศึกษาวิธีที่และได้กำจัดความโลภความโกรธความหลงจนหมดสิ้นไป จนหายคันแล้ว ก็ทรงนำเอามาสั่งสอนพวกเรา ให้เสียสละทำบุญให้ทาน อย่าเสียดายสมบัติข้าวของเงินทองที่มีเหลือกินเหลือใช้ อย่าเก็บเอาไว้ ให้เอาไปทำบุญทำทาน เพราะจะช่วยลดความโลภความอยากลงไปได้ ทำให้อยากน้อยลงโลภน้อยลง ความหิวความต้องการน้อยลง ความทุกข์น้อยลง อยู่เฉยๆก็มีความสุขได้ นอกจากการให้ทานแล้ว ก็ทรงสอนให้รักษาศีล ไม่ให้ไปสร้างเวรสร้างกรรมกับผู้อื่น เพราะจะทำให้มีความทุกข์มากยิ่งขึ้น ยิ่งคันมากยิ่งขึ้น ยิ่งอยู่เฉยๆไม่ได้ เวลาไปเบียดเบียนผู้อื่น ฆ่าผู้อื่น ทำร้ายผู้อื่นแล้ว จะอยู่อย่างปกติไม่ได้ จะมีความหวาดกลัว ที่จะต้องถูกจับไปลงโทษ ถูกจองเวรจองกรรม ถ้าไม่ได้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ได้ทำร้ายผู้อื่น จะไม่กังวลหรือหวาดกลัว จะอยู่เฉยๆได้อย่างสุขอย่างสบาย แล้วก็ทรงสั่งสอนให้ทำจิตใจให้สงบ เพราะใจเป็นเหมือนรถวิ่งลงเขา จะให้มันหยุดโดยไม่เหยียบเบรกไม่ได้ ต้องมีเบรก ถึงจะทำให้รถวิ่งช้าลงและหยุดได้ ใจก็เป็นอย่างนั้น ถ้าปล่อยไปตามเรื่อง ก็จะคิดไปเรื่อยเปื่อย เป็นอย่างนี้มานานแล้ว เคยเห็นใจหยุดนิ่งบ้างไหม เพราะไม่เคยเบรกใจ ไม่รู้จักวิธีเบรกใจ ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องเบรกใจด้วย

 

แต่พระพุทธเจ้าทรงเห็นคุณค่าของการเบรกใจ เพราะเป็นการเบรกความโลภความโกรธความหลงไปในตัว เวลาใจหยุดคิด  ความโลภความโกรธความหลงก็หยุดตามไปด้วย ความหิวอยากต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้ก็หายไปด้วย ความอิ่มความพอก็ปรากฏขึ้นมาแทนที่ นี่คือความสงบของใจ คือการหยุดใจนี้เอง เราจึงควรศึกษาวิธีการหยุดใจและนำเอาไปปฏิบัติ เพราะถ้าหยุดใจได้แล้ว จะพบกับสิ่งที่มหัศจรรย์ใจที่ไม่เคยพบมาก่อน ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะให้ความมหัศจรรย์ใจกับเราได้ นอกจากการเบรกใจให้หยุดนิ่ง การทำใจให้หยุดนิ่งก็คือการทำสมาธิ เป็นการหลอกใจไม่ให้ไปคิดเรื่องต่างๆ ถ้าไม่มีอะไรหลอกให้ใจทำ ก็จะไปคิดเรื่องนั้นคิดเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ จึงหลอกให้สวดมนต์เป็นต้น สวดไปเรื่อยๆ โดยไม่ปล่อยให้ไปคิดเรื่องอื่น ใจก็จะค่อยสงบตัวลง จนไม่อยากจะสวดก็หยุดสวดได้ นั่งอยู่เฉยๆ ถ้าใจไม่คิดอะไร ไม่อยากได้อะไร ไม่อยากทำอะไร ก็จะมีความสุขในระดับหนึ่ง มีความสงบในระดับหนึ่ง ถ้าอยากจะให้สงบมากกว่านั้น ก็ดูลมหายใจต่อไป ดูลมหายใจเข้า ดูลมหายใจออก ถ้าไม่ไปเผลอคิดอะไร ไม่นานจิตก็จะรวมลงเต็มที่ ก็จะปรากฏความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ใจ ใจจะเบา จะโล่ง มีปีติ มีความสุขมาก มีความอิ่มความพอ เป็นการสร้างความสุขโดยไม่ต้องอาศัยสิ่งต่างๆภายนอก มีความสุขอยู่ในตัวของเราแล้ว เพียงแต่ไม่รู้จักวิธีทำให้เกิดขึ้นมา พวกเราโชคดีที่ชาตินี้ได้เกิดเป็นมนุษย์ และได้เจอพระพุทธศาสนา ที่รู้วิธีสร้างความสุขที่แท้จริง คือวิธีทำจิตใจให้สงบนี้เอง ด้วยการทำบุญให้ทาน เสียสละ รักษาศีลและทำสมาธิ

 

ถ้านำเอาสิ่งที่ได้ยินได้ฟังในวันนี้ ไปปฏิบัติประพฤติไปทำอยู่เรื่อยๆ สักวันหนึ่งก็จะได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ คือความสุขที่ดีที่เลิศกว่าความสุขต่างๆในโลกนี้ ถ้าได้สัมผัสเพียงครั้งเดียว จะมีกำลังใจที่จะเสียสละเพศของฆราวาสออกบวช  เพื่อสร้างความสุขแบบนี้ให้มีมากยิ่งขึ้นไป จนมีอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย ที่มีความสุขแบบนี้อยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เดินยืนนั่งนอน หลับหรือตื่น ไม่จางหายไปไหน เพราะอยู่กับจิตใจไปตลอดอนันตกาล นี่คือผลที่จะได้รับจากการเสียสละออกบวช แล้วยังสามารถจูงใจให้ผู้อื่นเดินตามด้วย พ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายจะได้เดินตาม ดังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำเป็นตัวอย่าง หลังจากที่ได้ทรงตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ทรงเสด็จไปโปรดพระราชวงศ์ในพระราชวัง ก็ปรากฏมีญาติสนิทมิตรสหายต่างๆของพระพุทธเจ้า เกิดศรัทธาความเลื่อมใสออกบวชกันเป็นจำนวนมาก ได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นจำนวนมาก เพราะการเสียสละของพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียว ทำให้ผู้ที่ไม่มีโอกาสได้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ได้ไปสวรรค์ชั้นต่างๆ ไปพรหมโลกชั้นต่างๆ ได้มีโอกาสไปกัน มีจำนวนมากนับไม่ถ้วน มาจนถึงปัจจุบันนี้

 

การบวชจึงเป็นการกระทำที่น่ายกย่องสรรเสริญน่าสนับสนุน ถ้ามีลูกอายุครบบวชแล้ว ถ้ายังไม่ได้บวช ก็ควรหาวิธีทำให้เขาอยากบวช วิธีที่ดีที่สุดคือพาเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมบ่อยๆ จะเกิดศรัทธา จะยินดีออกบวช ดีกว่าไปบังคับหรือไปล่อด้วยรางวัลต่างๆ เช่นบวชแล้วจะซื้อรถให้ จะซื้อบ้านให้ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่ เพราะจะไม่ตั้งใจศึกษาร่ำเรียน จะนั่งนับวันนับคืน ว่าจะถึงเวลาสึกเมื่อไหร่ จะได้รับรางวัล แต่จะไม่ได้ประโยชน์จากการบวช เพราะมีแต่กิริยาของการบวชแต่ไม่มีสาระของการบวช คือการศึกษาปฏิบัตินั่นเอง ดังนั้นถ้าจะบวชก็ให้บวชด้วยศรัทธา อย่าบวชเพราะถูกเคี่ยวเข็ญบังคับหรือล่อด้วยรางวัล แต่หาอุบายให้เขาบวชด้วยการพาเข้าวัดบ่อยๆ พาไปดูพิธีบวช จะได้รู้ว่าบวชเพื่ออะไร ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าบวชเพื่ออะไร คิดว่าไปติดคุกติดตะราง แต่ความจริงการบวชเป็นการไปสู่สวรรค์ชั้นต่างๆ ไปสู่พรหมโลกชั้นต่างๆ ไปสู่การสิ้นสุดแห่งการเวียนว่ายตายเกิด จึงขอฝากเรื่องการบวชไปพินิจพิจารณาและปฏิบัติ เพื่อประโยชน์สุขที่จะตามมาต่อไป การแสดงก็เห็นว่าสมควรแก่เวลา จึงขอยุติไว้เพียงเท่านี้