กัณฑ์ที่ ๗๙ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๔
การอยู่จำพรรษา
วันนี้เป็นวันแรม
๑ ค่ำเดือน ๘
เป็นวันเข้าพรรษา
การอยู่จำพรรษาเป็นพุทธบัญญัติ
คือเป็นคำสั่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกำหนด
ให้พระภิกษุทุกๆรูปที่เคยจาริกไปตามสถานที่ต่างๆ
เมื่อถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน
๘ จนถึงวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑
จะต้องหยุดอยู่กับที่ตลอดเวลา
๓ เดือน เนื่องจากเป็นฤดูฝน
เป็นเวลาที่ชาวนาชาวไร่ทำการเพาะปลูกพืชต่างๆ
เวลาพระสงฆ์จาริกไปไหนมาไหน
ก็จะเดินผ่านไร่นา
แล้วไปเหยียบย่ำทำลายพืชที่ปลูกไว้ ผู้ที่เดือดร้อนก็เลยไปกราบทูลขออนุญาตจากพระพุทธเจ้า
ให้ทรงกำหนดห้ามไม่ให้พระภิกษุจาริกไปไหนตลอดระยะเวลา
๓ เดือนในช่วงฤดูฝน
การอยู่จำพรรษาของพระภิกษุก็เลยเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบันนี้
พุทธศาสนิกชนชาวไทยมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับเทศกาลเข้าพรรษา
และถือเป็นธรรมเนียมที่จะปฏิบัติธรรม
ทำความดีกัน
สุดแท้แต่ศรัทธาและสติปัญญา
เพราะการประกอบคุณงามความดี
ทำบุญทำกุศล
ละเว้นจากอบายมุขทั้งหลายเป็นการเสริมสร้างบุญบารมี สร้างความสุขความเจริญที่แท้จริง
คนเราจะดีจะชั่วไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้อื่น
พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้
แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา
การกระทำทางกาย ทางวาจา
และทางใจ
เป็นเหตุที่จะนำมาซึ่งความเจริญก็ดี
ความเสื่อมก็ดี ความสุขก็ดี
หรือความทุกข์ก็ดี
สิ่งเหล่านี้เกิดจากการกระทำของเรา
คนอื่นอาจจะมีส่วนในการกระตุ้น
หรือเป็นชนวนเหตุให้เราไปทำในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี
แต่ถ้าเราเป็นคนที่มีความมั่นคง
แน่วแน่กับคุณงามความดีแล้ว
ต่อให้ใครมาชวนเราไป
หรือใครจะพูดกระทบกระทั่ง
หรือกระทำอะไรที่จะเป็นเหตุให้เราไปทำความไม่ดี
เราก็จะไม่ทำ เพราะว่าเรามีความศรัทธาในพระธรรมคำสอนที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบาปบุญ
คุณโทษ นรกหรือสวรรค์
ล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกๆคน
ถ้าปรารถนาความสุขความเจริญในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และเมื่อตายไปแล้วก็ไปสู่สวรรค์
ไปสู่สุคติต่อไป
ก็ต้องพยายามสร้างแต่คุณงามความดี
ทำบุญทำกุศล
ละการกระทำบาปทั้งปวง
ในช่วงเข้าพรรษาจึงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของศรัทธาญาติโยม
สมณะชีพราหมณ์
จะตั้งจิตอธิษฐานว่าจะปฏิบัติอะไรเป็นพิเศษ
บางท่านอาจจะขอยกเลิกการเสพสุรายาเมาตลอดเวลา
๓ เดือน หรือเลิกสูบบุหรี่
เลิกเล่นการพนัน
เลิกเที่ยวเตร่
บางท่านก็อาจจะขอสมาทานรักษาศีล
๕ ตลอดทั้งพรรษา
บางท่านก็อาจจะสมาทานศีล ๘
ศีลอุโบสถไปตลอดทั้งพรรษา
บางท่านก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าจะทำบุญใส่บาตรทุกๆวัน
และวันพระจะมาวัดเพื่อฟังเทศน์ฟังธรรม
และอยู่ปฏิบัติธรรม
ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ
เจริญวิปัสสนา เป็นการสร้างบุญสร้างกุศล
สร้างคุณงามความดีให้กับตน
สร้างคุณค่าให้กับตน
คุณค่าของคนเราอยู่ที่คุณธรรมที่มีอยู่ภายในใจ
มีคนถามว่าคนดีเป็นอย่างไร
คนดีก็คือคนที่มีศีลธรรมนั่นเอง
ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ไม่สร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
ตั้งมั่นอยู่ในศีล ๕ คือ
ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ละเว้นจากการลักทรัพย์
ละเว้นจากการประพฤติผิดประเวณี
ละเว้นจากการพูดปดมดเท็จ
และละเว้นจากการเสพสุรายาเมา
นี่คือคุณสมบัติของคนดี
ถ้าอยากเป็นคนดี
เป็นคนที่มีคุณค่า
ก็ต้องพยายามปฏิบัติให้อยู่ในทำนองคลองธรรม
อย่างน้อยให้มีศีล ๕
และถ้าต้องการจะเป็นคนที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
ก็ต้องเจริญจิตตภาวนา
พัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น
ต้องชำระความโลภ ความโกรธ
ความหลงซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนไม่ดี
คนไม่ดีก็เพราะความโลภ
ความโกรธ ความหลงนี่แหละ
ที่จะทำให้คนไม่ดี
เช่นเวลามีความโลภ
อยากจะได้อะไรมากๆ
แต่ไม่สามารถหามาได้ด้วยความสุจริต
ก็ต้องไปลัก ไปขโมย ไปคด
ไปโกง เมื่อทำไปแล้วก็กลายเป็นคนไม่ดีไป
ถูกสังคมประณาม รังเกียจ
ถ้าเจ้าหน้าที่ทางบ้านเมืองจับได้
ก็ต้องเอาเข้าไปขังไว้ในคุกในตะราง
เพราะถ้าปล่อยไว้ข้างนอกก็จะเป็นพิษเป็นภัยกับผู้อื่น
คนเราจะดีจะชั่ว
ไม่ได้อยู่ที่สกุล
เมื่อได้เกิดในสกุลสูงๆแล้วใช่จะดีโดยอัตโนมัติ
ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา
จะร่ำจะรวยหรือจะจนก็ไม่สำคัญ
เพราะคนรวยก็เป็นคนชั่วได้
คนจนเป็นคนดีก็มีอยู่เยอะ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีเงินมีทองหรือไม่
แต่อยู่ที่คุณงามความดีคือศีลธรรมที่มีอยู่ในใจ
ผู้ปรารถนาความสุข
ความเจริญรุ่งเรือง
เป็นคนดีแล้วละก็
จึงควรน้อมเอาคำสอนของพระพุทธองค์ที่สอน
ให้กระทำความดีทั้งหลายให้ถึงพร้อม
ละการกระทำบาปทั้งปวงเสีย
และชำระจิตใจให้ผ่องแผ้ว
คือชำระความโลภ ความโกรธ
ความหลงให้ออกไปจากจิตจากใจ
ทำได้มากน้อยแค่ไหน
ก็จะเป็นคนดีมากน้อยขึ้นไปเท่านั้น
ในเทศกาลการเข้าพรรษาในวันนี้
ขอให้ท่านทั้งหลายจงนำธรรมเหล่านี้ไปพินิจพิจารณา และตั้งจิตอธิษฐานนำเอาไปปฏิบัติเพื่อความสุขความเจริญของท่านต่อไป
การแสดงเห็นว่าสมควรแก่เวลา
ขอยุติไว้เพียงเท่านี้